จากตอนที่แล้ว ผมได้พูดถึงการเปิดโลกการประชุมทางไกลสู่เครือข่าย Home Health Care ไปบ้างแล้ว หลายๆ คนก็คงสงสัยว่าอยู่บ้านแล้วเราจะหาหมอได้อย่างไร? คำตอบคือ หาได้ครับ ในหลายๆ ประเทศนั้นการพบแพทย์ผ่านระบบ Teleconference หรือ Video conference นั้น แทบจะเป็นการให้บริการขั้นพื้นฐานของประเทศกันเลยทีเดียว
*ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ผมว่าอ่านถึงตรงนี้คงมีคนสงสัยแล้วหล่ะ ว่ามันจะแตกต่างกับการพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือไม่? ผมคงต้องถามกลับครับ ว่าที่บ้านใครมทีผู้ป่วยโรคเรื้อรังในระดับที่ไม่รุนแรง หรือมีคนชราที่เป็นโรคยอดฮิต เช่น เบาหวาน ความดัน โรคหัวใจ หรือโรคอื่นๆ ที่ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัดเป็นระยะ บางทีค่ายาก็ไม่เท่าไหร่ ได้ยาเดิม ตรวจก็แค่ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน ฟังเสียงหัวใจ พอพบแพทย์ก็คุยๆ ถามๆ แล้วแพทย์ก็จ่ายยา และนัดมาพบใหม่ในอีกสามเดือนข้างหน้า ค่ายา 100 บาท ค่าเดินทาง 400 บาท รอคิวอีก 5 ชั่วโมง นี่แหละครับความไม่สะดวกที่จะต้องเดินทางไปโรงพยาบาล ในหลายๆ ประเทศจึงมีการทดลองจัดกลุ่มผู้ป่วยที่ไม่จำเป็นต้องมาพบแพทย์ทุกครั้งตามนัด เพียงแค่รายงานอาการ และพูดคุยสอบถามกัน มาอยู่ในกลุ่มผู้ป่วย Home Health Care Online หรือ Telehealthนั่นเอง ซึ่งผลการทดลองก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจครับ และกลุ่มผู้ป่วยเหล่านี้ก็ไม่ได้ถูกทอดทิ้งนะ ก็ยังมีคิวที่ต้องไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลตามนัดเช่นเดิม แต่ยืดเวลาออกไปเท่านั้นเอง
*ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
นอกจากนี้ในบางประเทศ(ที่ระบบอินเตอร์เน็ทดี) ก็ยังมีอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่สามารถเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรร์การประชุมทางไกลได้ เพื่อให้แพทย์ที่อยู่ปลายทางสามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้นครับ
จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีการประชุมทางไกลนั้นสามารถเข้ามาอำนวยความสะดวกระบบการดูแลสุขภาพที่บ้าน หรือ Home Health Care ได้ในระดับหนึ่ง ถ้าเราประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่มีให้คุ้มค่า มันก็จะก่อประโยชน์ให้กับเรา ไม่ใช่แค่ทางการแพทย์เท่านั้นครับ
ตอนหน้าเรามาดูการแยกประโยช์ของระบบ Telehealth กันครับ
กลับไปอ่านตอนแรก Home Health Care : Teleconference ตอนที่ 1
พิศุทธิ์ บุญทรง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น